วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 เวลา 19:38 น.
ขนร่างยายวัย 65 ปี เสียชีวิตจากพิษณุโลก มาฌาปนกิจวัดราษฎร์ประคองธรรมบางใหญ่ เจ้าหน้าที่วัดเปิดโลงตรวจสอบ ผงะยายลืมตาขยับตัวได้ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลบางใหญ่
นนทบุรี : วันที่ 23 พ.ย.68 เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางเพจวัดราษฎร์ประคองธรรม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้ไลฟ์สดเผยแพร่ทางเพจของวัดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ครอบครัวของนางชลธิรศน์ อายุ 65 ปี ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดพิษณุโลก เพื่อนำร่างของนางชลธิรศน์ ผู้ป่วยจากโรคมะเร็งในสมองและความจำเสื่อมที่สิ้นลมหายใจใส่โลงบรรจุร่างเดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อบริจาคร่างกายหลังเสียชีวิตลง แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลจุฬาฯ ทางโรงพยาบาลได้ปฎิเสธที่จะรับร่างของนางชลธิรศน์ไว้ เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของทางโรงพยาบาล ทำให้ครอบครัวของนางชลธิรศน์ ตัดสินใจนำร่างของนางชลธิรศน์เดินทางมาที่วัดราษฎร์ประคองธรรม เพื่อทำการฌาปนกิจฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในโครงการบ้านหลังสุดท้ายของทางวัด ปรากฎว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของวัดตรวจสอบร่างนางชลธิรศน์ผู้เสียชีวิตนำร่างลงโลงเพื่อเตรียมฌาปนกิจ ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่วัด ครอบครัวนางชลธิรศน์ และผู้อยู่ในเหตุการณ์ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าร่างของนางชลธิรศน์ วัย 65 ปี ที่ถูกลงความเห็นว่าเสียชีวิตไปแล้ว กลับลืมตาขึ้นมาและนอนขยับตัวไปมาอยู่ในโลง สร้างความตกตะลึงให้กับเจ้าหน้าที่วัด รวมทั้งพระกิตติวชิรธาดา เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรม ที่เตรียมประกอบพิธีฌาปนกิจให้กับครอบครัวของนางชลธิรศน์
หลังหายตกตะลึงทางเจ้าหน้าที่วัดได้นำอุปกรณ์มาตรวจสอบสัญญาณชีพจร อีกครั้ง จึงพบว่ายังมีสัญญานชีพอยู่ จึงได้รีบช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลบางใหญ่เพื่อทำการรักษา เนื่องจากนางถูกนำร่างใส่บรรจุโลงมานานหลายชั่วโมง
นายไพรัช สุดธูป ไวยาวัจกรวัดราฎษร์ประคองธรรม เปิดเผยว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่วัดเตรียมเปิดโลงเพื่อตรวจสอบสภาพศพและทำพิธีตามความเชื่อ ปรากฎว่าได้ยินเสียงคล้ายคนเคาะฝาโลงออกมา จึงตัดสินใจเปิดฝาโลงออกมาดูจึงพบว่าร่างของยายที่ครอบครัวเตรียมนำมาฌาปนกิจนั้น ยังหายใจและมีชีวิตอยู่ หลังหายตกตะลึงแล้วทางเจ้าหน้าที่วัจึงได้รีบนำคัวคุณยายส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน ถือเป็นเหตุการณ์ที่ตนไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต
ทางด้านครอบครัวของนางชลธิรศน์ เปิดเผยว่า เมื่อ 3 วันก่อน นางชลธิรศน์ซึ่งล้มป่วยเป็นผู้ป่วยจิตเวช นอนติดเตียงไม่สามารถลุกเดินได้จากอุบัติเหตุ ก่อนที่ต่อมาจะตรวจพบเนื้องอกในสมอง 4 ก้อน และเข้าทำการผ่าตัดรักษาเอาเนื้องอกออกจนกลายเป็นคนพูดไม่ได้ นอนนิ่งเฉย น้ำลายยืด จนกระทั่งเมื่อวานนี้ช่วงเวลา 17.00 น. นางชลธิรศน์นอนนิ่งเหมือนคนไม่หายใจ ทำให้ทางญาติพี่น้องในครอบครัวพากันมาตรวจสอบดูก็พบว่า นางชลธิรศน์ไม่หายใจแล้ว จึงได้แจ้งให้ทางผู้ใหญ่บ้านทำการออกหนังสือรับรองการเสียชีวิตให้ ก่อนจะตัดสินใจนำร่างนางชลธิรศน์ใส่โลงเพื่อเดินทางจากจังหวัดพิษณุโลกไปบริจาคร่างกายที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แต่ถูกทางโรงพยาบาลปฎิเสธ จึงนำร่างมาฌาปนกิจที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ก่อนจะมาพบว่านางชลธิรศน์ยังมีชีวิตอยู่หลังเจ้าที่วัดทำการเปิดฝาโลงออก
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางใหญ่ได้รับตัวนางชลธิรศน์เข้าทำการรักษาตัวเร่งด้วยเนื่องจากอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย โดยที่นางชลธิรศน์ไม่สามารถพูดจาหรือสื่อสารได้


