จากกรณี เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้าย ยิงถล่มบ้าน พักเลขที่ 91 ตั้งในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือ ผู้ใหญ่รงค์ อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุ 2.นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ หรือ แตง อายุ 49 ปี ภรรยานายธรรมรงค์ .3.นายพรศักดิ์ เพชรชู หรือผู้ใหญ่กรอก อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน และ 4.นายวัฒน์ วิเชียร ซึ่งเป็นกลุ่มคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุ

จากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุเป็นตำรวจ 1 คน ทราบชื่อคือ ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี ซึ่งหนีไปกับ น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม บุตรสาวนายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ ผู้ตาย อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพื่อเร่งคลี่คลายคดี สภ.คีรีรัฐนิคม

โดยพล.ต.ท.สุรพงศ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวภายหลังการประชุมว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ผู้ใหญ่รงค์ เจ้าของบ้านกำลังนั่งคุยอดีตผู้ใหญ่บ้านอีกคน โดยที่นางนิลทิพย์ นั่งอยู่ที่ศาลาหน้าบ้าน ก็มี ด.ต.อรรถพร ซึ่งเป็นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.คีรีรัฐนิคม เดินทางไปที่บ้านเพื่อที่จะเจรจา กับทางผู้ใหญ่รงค์

สำหรับ ด.ต.อรรถพร หย่าร้างกับภรรยา เมื่อปลายปี 2565 ส่วน น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม ลูกสาวคนเดียว ของผู้ใหญ่รงค์ ก็หย่าร้างกับสามีมาเมื่อกลางปี 65 ทั้งสองก็มาอยู่กินกันในฐานะสามีภรรยา แล้วก็จดทะเบียนสมรสกัน แต่ว่าทางนายธรรมรงค์หรือผู้ใหญ่รงค์พ่อตาค่อนข้างเกลียด เนื่องจาก ด.ต.อรรถพร เป็นตำรวจที่มีฐานะที่ด้อยกว่า ก็พยายามบอกให้ลูกสาวหย่าร้างกับลูกเขยซึ่งประเด็นนี้น่าจะเป็นประเด็นหลัก ที่ทำให้การเจรจา ระหว่างกันไม่เป็นผล จึงเกิดกการยิงกันขึ้น ซึ่ง ด.ต. อรรถพร เดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุพร้อมด้วยพี่ชาย และคนขับรถอีก 1 คน หลังก่อเหตุกลุ่มคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต1 ราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการหลบนี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมได้

ส่วนประเด็นอื่นๆก็ไม่ตัดทิ้ง และไม่อยากสันนิษฐานไดๆ ดูตามพยานหลักฐาน โดยคนร้ายยังบอกไม่ได้ว่ามีใครบ้าง แต่มีมากกว่า 3 คน ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วจำนวน 3 ราย นายธรรมรัตน์(วัฒน์) วิเชียร อายุ 48 ( เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ) นายมานพ ว่างงาน อายุ 57 และ ดต.อรรถพร วิเชียร ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ส่วนการไล่ล่าจับกุมทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษของสืบสวนภูธรภาค 8 กว่า 100 นายเข้าทำการปิดล้อมกดดันกลุ่มผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ตามรอยต่ออำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวในค่ำคืนนี้.