หน้าแรก > ภูมิภาค

"พิพัฒน์" เดินหน้าถนนผังเมืองใหม่ตราด คืบหน้า 26% เปิดเส้นทางเมือง - ชายแดน - ท่องเที่ยว ลดเวลารถติด หนุนเศรษฐกิจตะวันออกและประโยชน์ประชาชนโดยตรง คาดเสร็จปี 2570

วันที่ 9 ธันวาคม 2568 เวลา 10:45 น.


“พิพัฒน์” เดินหน้าถนนผังเมืองใหม่ตราด คืบหน้า 26% เปิดเส้นทางเมือง - ชายแดน - ท่องเที่ยว ลดเวลารถติด หนุนเศรษฐกิจตะวันออกและประโยชน์ประชาชนโดยตรง คาดเสร็จปี 2570

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงชนบท ( ทช.) ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกภูมิภาคเพื่อให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกขึ้น ลดต้นทุนขนส่ง และเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะในจังหวัดตราด ซึ่งเป็น “ประตูเศรษฐกิจภาคตะวันออก” ที่เชื่อมสู่ประเทศเพื่อนบ้านและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ ขณะนี้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ก1, ข และ ค1

ผังเมืองรวมเมืองตราด คืบหน้าแล้วกว่า ร้อยละ 26 โดยอยู่ระหว่างงานโครงสร้างหลัก - งานผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก และงานสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก คาดว่าจะแล้วเสร็จใน ปี 2570

นายพิพัฒน์ย้ำว่า โครงการนี้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่ “เปลี่ยนคุณภาพชีวิตประชาชนได้จริง” เพราะจะช่วย ลดเวลารถติดในเขตเมืองตราด ทำให้ประชาชนเดินทางได้เร็วและปลอดภัยกว่าเดิม เชื่อมเมือง - เชื่อมชายแดน - เชื่อมท่าเรือ รองรับการขนส่งสินค้าเกษตรทะเลและการค้าชายแดน หนุนภาคท่องเที่ยว ช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเกาะช้าง - เกาะกูดได้สะดวกขึ้น กระตุ้นรายได้ให้คนในพื้นที่และเป็นการเตรียมพร้อมสู่การพัฒนาภาคตะวันออกอย่างยั่งยืน รองรับการค้าการลงทุนใหม่ในอนาคต

นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า จังหวัดตราด เป็นเมืองที่มีศักยภาพทั้งภาคการคมนาคมขนส่ง การท่องเที่ยว โดยในปัจจุบันพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองมีการขยายตัวของชุมชนอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นจะต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านถนน เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจภาคการขนส่ง การค้า และการขยายตัวของเมือง นอกจากนี้ ยังเป็นโครงการก่อสร้างถนนที่ไว้รองรับการขยายเส้นทางสาย 3 จากจังหวัดตราด ถึง บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ เพื่อสอดรับกับถนนสายหลักที่เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน สนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัดตราด ซึ่งการก่อสร้างแบ่งออกเป็น สาย ก1 ระยะทางโครงการ 1.350 กิโลเมตร สาย ข และ ค1 ระยะทางโครงการ 6.782 กิโลเมตร รวมระยะทางดำเนินการของโครงการทั้งสิ้น 8.132 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 914 ล้านบาท โดยได้ก่อสร้างเป็นผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 4 ช่องจราจร แบ่งทิศทางการจราจร โดยเกาะกลาง มีทางเท้า พร้อมก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 4 แห่ง มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบระบายน้ำ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้งานถนนสายดังกล่าวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ทช. ยังได้กำชับไปยังผู้รับจ้างและผู้ควบคุมงานในเรื่องความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง โดยให้ทำการติดตั้งสัญญาณไฟกระพริบ ติดตั้งป้ายเตือน สิ่งอำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ ให้ผู้ใช้ทางสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน รวมถึงให้เพิ่มรอบการรดน้ำบริเวณโครงการเป็นการลดฝุ่นละอองในพื้นที่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในช่วงระหว่างการก่อสร้างอีกด้วย

ข่าวยอดนิยม