วันที่ 12 ธันวาคม 2568 เวลา 12:26 น.
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เผย มีการจัดตั้งรพ.สนามอีก 1 แห่ง ดูแลประชาชนที่อพยพใน จ.บุรีรัมย์ ภาพรวม รพ.ในพื้นที่เสี่ยงยังปิดเท่าเดิม 12 แห่ง ส่วน รพ.สต. ปิดบริการเพิ่มเป็น 205 แห่ง ย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลพื้นที่ปลอดภัยรวม 634 ราย กำชับเฝ้าระวัง 5 กลุ่มโรคสำคัญในศูนย์พักพิง ทั้งโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร โรคติดเชื้อนำโดยแมลง โรคติดเชื้อจากการสัมผัส และกลุ่มอาการบาดเจ็บ และดูแลสุขภาพจิตทั้งประชาชนและบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน
วันนี้ (12 ธันวาคม 2568) ที่ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมี นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม ว่า ขณะนี้ โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด ยังปิดบริการ 12 แห่งเท่าเดิม ได้แก่ รพ.น้ำยืน รพ.นาจะหลวย รพ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, รพ.กันทรลักษ์ รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ, รพ.กาบเชิง รพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติฯ จ.สุรินทร์, รพ.ตาพระยา รพ.โคกสูง รพ.อรัญประเทศ รพ.คลองหาด จ.สระแก้ว และ รพ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นเป็น 668 ราย ส่วน รพ.สต. ปิดชั่วคราว เพิ่มขึ้นเป็น 205 แห่ง โดยมีการจัดตั้งรพ.สนามเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อดูแลประชาชนที่อพยพใน จ.บุรีรัมย์
สำหรับศูนย์พักพิงขณะนี้มีการเปิดเพิ่มขึ้นเป็น 961 จุด ผู้เข้าพักรวม 259,121 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง 51,658 คน ได้จัดเจ้าหน้าที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนดูแลในศูนย์พักพิง 5,504 คน รวมทั้งเขตสุขภาพที่ 9 และกรมการแพทย์ ยังได้สนับสนุนทีมปฏิบัติการด้านสุขภาพลงพื้นที่เพิ่มเติม ภาพรวมมีทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ (MERT/Mini-MERT) 50 ทีม ทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับสูง (ALS) 57 ทีม ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค 116 ทีม ทีมปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม 86 ทีม และทีมช่วยเหลือทางด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต 93 ทีม ซึ่งจากสถานการณ์ที่ดำเนินมาต่อเนื่องหลายวันส่งผลให้ประชาชนเกิดความเครียดได้มากขึ้น โดยจากการคัดกรองสุขภาพจิต 60,627 ราย พบเครียดสูงและเสี่ยงทำร้ายตนเองรวม 886 ราย ได้ให้การปฐมพยาบาลทางจิตใจและส่งเข้ารับการดูแลตามกระบวนการ ที่ประชุมจึงมีข้อสั่งการให้มีการติดตามสุขภาพจิตทั้งประชาชนและบุคลากรที่ปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เฝ้าระวัง 5 กลุ่มโรคสำคัญที่มีความเสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดในศูนย์พักพิงจากการที่มีประชาชนอยู่รวมกันจำนวนมาก ได้แก่ โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร โรคติดเชื้อนำโดยแมลง โรคติดเชื้อจากการสัมผัส และกลุ่มอาการบาดเจ็บ