วันที่ 12 ธันวาคม 2568 เวลา 23:04 น.
พม. ให้การต้อนรับ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทย พร้อมหารือความร่วมมือ มุ่งคุ้มครองสตรี เด็ก ผู้สูงอายุ - หนุนต่อต้านค้ามนุษย์
วันที่ 11 ธันวาคม 2568 นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) มอบหมาย นางเตือนใจ คงสมบัติ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การต้อนรับ นายฟัยยาซ มูรชิด กาซี (H.E. Mr. Faiyaz Murshid Kazi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทย และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ และหารือในประเด็นการทำงานด้านสังคมร่วมกัน โดยมี ผู้บริหารกระทรวง พม. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมจำปีสิรินธร ชั้น 19 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ
ในโอกาสนี้ นายฟัยยาซ มูรชิด กาซี (H.E. Mr. Faiyaz Murshid Kazi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทย ได้ลงนามถวายความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
นางเตือนใจ กล่าวว่า การมาเยือนครั้งนี้ ถือเป็นวาระสำคัญที่สะท้อนถึงมิตรภาพและความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ โดยเฉพาะในมิติการเสริมสร้างระบบสวัสดิการสังคมและการสนับสนุนชุมชน , การคุ้มครองและเสริมพลังสตรี เด็ก และผู้สูงอายุ และการส่งเสริมความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์ เป็นพันธกิจที่ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญร่วมกัน ซึ่งตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการหารือในวันนี้ จะเป็นเวทีที่สร้างสรรค์ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสริมสร้างความเข้าใจ และนำไปสู่ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม เพื่อความก้าวหน้าในการคุ้มครองและความมั่นคงทางสังคมอย่างยั่งยืน
นางเตือนใจ กล่าวว่า กระทรวง พม. มีภารกิจสำคัญในการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของเด็ก สตรี คนพิการ และผู้สูงอายุ โดยเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานตามอนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ 3 ฉบับ ได้แก่ 1. อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก 2. อนุสัญญาขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี และ 3. อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ อีกทั้งให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้สูงอายุ โดยได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการระหว่างประเทศมาดริด ว่าด้วยเรื่องผู้สูงอายุ (MIPAA) เพื่อขับเคลื่อนพันธกรณีระหว่างประเทศสู่การปฏิบัติในระดับชาติอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ประเทศไทยมีการยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหาสาเหตุเชิงโครงสร้างของการค้ามนุษย์ ซึ่งดำเนินงานโดยไม่เลือกปฏิบัติด้านเชื้อชาติ ศาสนา หรือสถานะทางสังคม ภายใต้ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551, แผนปฏิบัติการระดับชาติ พ.ศ. 2566–2570 และพิธีสารปาเลอร์โม กลยุทธ์ยึดหลัก “4P” ได้แก่ การป้องกัน การคุ้มครอง การดำเนินคดี และความร่วมมือ ภายใต้แนวทางทั้งภาครัฐและประชาสังคม
นางเตือนใจ กล่าวว่า กระทรวง พม. ได้บเคลื่อนนโยบายของนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภายใต้แนวคิด “พม. ใกล้คุณ” ลดรายจ่าย สร้างรายได้ รีสตาร์ทชีวิต เป็นนโยบายที่ให้ความสำคัญต่อคนและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง โดยมีหลัก Family First และ Care Economy เป็นแกนสำคัญ ทำให้การแก้ไขปัญหาสังคมเป็นเรื่องใกล้ตัวของประชาชนจริงๆ และช่วยลดความเปราะบางของครัวเรือนในเชิงรูปธรรม ด้วยเป้าหมายสำคัญคือการทำให้ครัวเรือนเปราะบางสามารถ “ตั้งหลัก” ได้ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และทำงานเชิงรุกบูรณาการร่วมกับท้องถิ่นเพื่อให้ความช่วยเหลือตรงจุดที่สุด
นางเตือนใจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในนามของกระทรวง พม. ขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ประจำประเทศไทย และคณะ ที่ให้เกียรติมาร่วมหารือในประเด็นส่งเสริมสร้างระบบสวัสดิการสังคมและการสนับสนุนชุมชน , การคุ้มครองและเสริมพลังสตรี เด็ก และผู้สูงอายุ และการส่งเสริมความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์ นับเป็นการแลกเปลี่ยนที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง เป็นพันธกิจสำคัญที่เรามุ่งมั่นร่วมกัน ซึ่งหวังว่าความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป

13 ธันวาคม 2568
13 ธันวาคม 2568