หน้าแรก > สังคม

สรุปคดี "นัทปง" กระทำอัตวินิบาตกรรม พบวงจรปิดนัทหยิบซองไซยาไนด์หายออกจากห้องเกิดเหตุ 40 วินาที ผลตรวจพบลิ้นถึงกระเพาะอาหารไหม้

วันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลา 15:17 น.


วันที่ 13 ธ.ค.68 เวลา 11.00 น. ที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.เดชรพี คงดี ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พล.ต.ต.หญิง สุเจตนา โสตถิพันธุ์ ผบก.พฐ 1 (ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1) พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบ พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส. พ.ต.อ.พูนสุข เตชะประเสริฐพร ผกก.1 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย พ.ต.อ.ศุภชัย ศรีศักดิ์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี ร่วมกันแถลงข่าวคดีการเสียชีวิตของนายณัฐวุฒิ ปงลังกา ผู้สื่อข่าวช่อง 8

พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 กล่าว่า จากการสอบปากคำพยานในบ้านผู้เสียชีวิต 4 ปาก และพยานที่นำวัตถุพยานออกจากที่เกิดเหตุไปอีก 1 ปาก ทำให้ทราบว่ามีบุคคลซึ่งเป็นผู้นำไซยาไนด์มาให้ผู้ตายเพิ่มอีก 1 คน จึงได้นำตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวนอย่างละเอียด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนหาที่มาของสารไซยาไนด์ดังกล่าว จึงพบว่านายกิตติซึ่งเป็นลูกจ้างร้านทำทองเป็นผู้ลักลอบนำสารดังกล่าวออกจากร้านมาให้ผู้ตาย ตรงกับผลการตรวจสอบในบ้านพักของผู้ตายซึ่งพบว่าเป็นสารไซยาไนด์ตัวเดียวกัน ซึ่งไม่พบว่ามีบุคคลอื่นไปหยิบจับหรือยุ่งเกี่ยวกับซองบรรจุไซยาไนด์ที่อยู่ในห้องที่พบร่างของผู้เสียชีวิต จึงสรุปได้ว่าผู้ตายได้กระทำการอัตวินิบาตกรรม ซึ่งทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็ไม่ติดใจในการสรุปคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 กล่าวว่า หลังทราบว่าพบสารไซยาไนด์ ในร่ายกายและทำให้นายณัฐวุฒิ เสียชีวิต ตำรวจสืบสวนภาค 1 ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อไล่เรียงเหตุการณ์ จนกระทั้งวันที่ 7 ธ.ค.68 กลุ่มบุคคลที่อยู่ในวันดื่มเหล้ากับผู้ตาย 4 คน และผู้ใกล้ชิดอีก 1 คน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และได้มอบโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อไล่เรียงเหตุการณ์ตามคำให้การของพยานทั้ง 5 คน ภายในบ้านมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด 10 ตัว ตั้งแต่หน้าบ้าน ภายในห้องโถง บันไดทางขึ้นชั้น 2 แต่ภายในห้องที่ผู้ตายนอนเสียชีวิต ยังไม่สามารถเปิดได้ ในส่วนของกล้องวงจรปิดที่ตำรวจสามารถดูได้นั้น ตรงกับคำให้การของพยานทั้ง 5 คน ได้สอดคล้องไปทิศทางเดียวกัน ทั้งเวลา การเคลื่อนไหวในบ้านและการเข้าออกบ้าน

จนวันที่ 8 ธ.ค. นายกิตติได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนให้ปากคำเกี่ยวกับนำสารไซยาไนด์ มาให้ผู้ตาย ตำรวจได้ดูวงจรปิดก็ตรงกับคำให้การว่าได้นำมาให้กับผู้ตายวันที่ 29 ต.ค.68 ได้นำมาวางไว้ที่โต๊ะกลางบ้าน หลังจากนั้นได้มีนายธีระพงษ์ หรือบิ๊ก เพื่อนผู้ตาย นำไปเก็บในห้องที่พบผู้เสียชีวิต จนวันที่ 11 ธ.ค.ตำรงจสืบสวนภาค 1 ได้ร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนและตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตัวที่อยู่ในห้องที่พบผู้ตาย ถึงได้พบภาพผู้เสียชีวิตหยิบซองกระดาษที่ใส่สารไซยาไนด์ ที่อยู่ใต้โต๊ะคอมพิวเตอร์ ออกมาไว้กับตัวใช้เวลา 40 วินาที ก่อนจะนำกลับไปเก็บยังที่เดิม หลังจากนั้นกลุ่มคนภายในบ้านที่นั่งดื่มเหล้าได้กลับออกไปจากบ้าน เหลืออยู่อีก 2 คน คือนาย บิ๊ก กับนายต้น และผู้ตาย จนเวลา 08.39 น.จึงมาพบนายณัฐวุฒิ นอนเสียชีวิตภายในห้อง จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้านทั้ง 10 ตัว ตรงกับคำให้การพยานและคนใกล้ชิด รวม 6 ปาก ในทิศทางเดียวกัน

พล.ต.ต.หญิง สุเจตนา โสตถิพันธุ์ ผู้บังคับการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 กล่าวว่า หลังจากทางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1ได้รับแจ้งให้ร่วมลงตรวจสอบในบ้านพักที่เกิดเหตุ ตามคำให้การของนายกิตติซึ่งเป็นคนนำสารไซยาไนด์ออกมาจากร้านทองมาให้ผู้ตายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เก็บสารไซยาไนด์ที่พบในร้านทอง ที่พบในบ้านพักของผู้เสียชีวิตนั้นพบว่าเป็นสารไซยาไนด์ตัวเดียวกัน ประเด็นที่ว่าไซยาไนด์เข้าไปอยู่ในตัวผู้ตายได้อย่างไรนั้น ทางเจ้าหน้าที่พบว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านก่อนหน้านั้นพบว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.นายบิ๊กเป็นคนนำซองบรรจุไซยาไนด์ ไปวางไว้ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ในห้องที่ผู้ตายเสียชีวิต จนกระทั่งต่อมาในวันที่ 30 พ.ย.ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ กล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าผู้ตายเข้าไปหยิบซองไซยาไนด์ที่โต๊ะก่อนจะหายออกจากห้องไป 40 วินาทีแล้วนำซองยากลับมาเก็บที่เดิม

พล.ต.ต.หญิง สุเจตนา กล่าวอีกว่า สารไซยาไนด์ที่ทางเจ้าหน้าที่นำมาตรวจสอบนั้น เก็บได้จากสารที่ได้จากร้านทองที่นายกิตติลักลอบนำออกมาให้กับผู้ตาย และตรงกันกับที่นายไอซ์ได้แบ่งออกไปตรวจสอบก่อนหน้านี้ และยังตรงกับซองในโต๊ะคอมที่พบในบ้านพัก ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าเป็นสารโปแตสเซียมไซยาไนด์ตัวเดียวกันทั้งหมด รวมทั้งกองอาเจียนที่พบในห้องที่เสียชีวิตก็ตรวจสอบพบสารโปแตสเซียมไซยาไนด์เช่นเดียวกัน ส่วนประด็นที่ก่อนหน้านี้มีการระบุว่าไซยาไนด์ที่พบนั้นเป็นโกลด์ไซยาไนด์นั้น ทาง พฐ.ไม่ทราบในเรื่องนั้น และผลการการตรวจของแพทย์นิติเวช ยังตรวจพบว่า มีการไหม้ที่ผิวลิ้น กลางลิ้น โคนลิ้นไปจนถึงกระเพาะอาหาร ในลักษณะที่ระบุได้ว่าเป็นการสัมผัสตรงเพราะมีความเข้มข้นสูง เป็นลักษณะเข้าทางปากแน่นอน

พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบช. ภาค 1 กล่าวว่า จากการตรวจสอบอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบสาเหตุหรือมูลเหตุจูงใจที่จะไปทำร้ายผู้เสียชีวิต ทั้งพยานหลักฐานซึ่งเป็นซองยาร่วมกับภาพวงจรปิดภายในบ้าน ก็ไม่พบว่ามีบุคคลอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องหรือจับต้อง หลังจากที่ผู้ตายได้เข้าไปหยิบแล้วหายออกจากห้องไป 40 วินาที ก็นำซองกลับมาที่เดิมจนกระทั่งผู้ตายเสียชีวิตลงในห้อง จึงไม่มีประเด็นว่ามีผู้อื่นผู้ใดทำให้ผู้เสียชีวิตตายด้วยสารพิษ

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม